การเลือกซื้อหูฟังไร้สาย ยี่ห้อไหนดี ในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเลือกหูฟังไร้สายที่มีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญที่มีผลต่อประสบการณ์การฟังเพลงและการใช้งานประจำวัน หากคุณกำลังมองหาหูฟังไร้สายที่ดีที่สุดในปี 2024 นี่คือรายชื่อ 10 รุ่นยอดนิยมที่ควรพิจารณา: Sony WH-1000XM5 ที่มีเทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวนพิเศษและคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยม, Bose Noise Cancelling Headphones 700 ที่มาพร้อมเทคโนโลยีการตัดเสียงรบกวนและความชัดเจนในการรับฟัง, Apple AirPods Max ที่เป็นตัวเลือกสำหรับคนรักเทคโนโลยีและคุณภาพเสียงที่ดี, Urbanista Los Angeles ที่มีดีไซน์สวยงามและประสบการณ์การฟังที่น่าตื่นเต้น, 1More SonoFlow ที่มีคุณภาพเสียงและราคาที่เข้าถึงง่าย, Sennheiser Momentum 4 ที่มาพร้อมความแตกต่างและคุณภาพเสียงมาตรฐาน, และ Master & Dynamic MH40 ที่มีคุณภาพเสียงที่ยอดเยี่ยมและดีไซน์เน้นความงาม การเลือกหูฟังที่เหมาะสมสำหรับความต้องการและงบประมาณของคุณเป็นสิ่งสำคัญ และควรทดลองฟังเพื่อประเมินคุณภาพเสียงและความสบายด้วย
การเลือกซื้อหูฟังไร้สายนั้น สิ่งสำคัญที่ควรพิจารณา ได้แก่
ประเภทของหูฟัง หูฟังไร้สายมี 2 ประเภทหลักๆ คือแบบ In-Ear และแบบ Earbud
- หูฟังแบบ In-Ear เป็นหูฟังที่ใส่เข้าไปในช่องหู ให้ความกระชับ และเสียงที่มีคุณภาพมากกว่า
- หูฟังแบบ Earbud เป็นหูฟังที่วางอยู่บนใบหู ใส่สบายกว่า และพกพาสะดวกกว่า
คุณภาพเสียง หูฟังแต่ละรุ่นจะมีคุณภาพเสียงที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ประเภทของไดรเวอร์ การออกแบบ และการปรับแต่งเสียง
ฟีเจอร์อื่นๆ หูฟังไร้สายในปัจจุบันมีฟีเจอร์ต่างๆ มากมาย เช่น การตัดเสียงรบกวน การกันน้ำกันฝุ่น การสั่งงานด้วยเสียง และอื่นๆ ควรเลือกหูฟังที่มีฟีเจอร์ที่ตรงกับความต้องการใช้งาน
งบประมาณ หูฟังไร้สายมีราคาแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น แบรนด์ คุณภาพเสียง และฟีเจอร์ต่างๆ ควรเลือกหูฟังที่มีราคาเหมาะสมกับงบประมาณ
สำหรับยี่ห้อหูฟังไร้สายที่ได้รับความนิยมในประเทศไทย ได้แก่
- Apple
- Sony
- Sennheiser
- Jabra
- JBL
- Samsung
- Huawei
- SoundPEATS
- Xiaomi
โดยแต่ละยี่ห้อก็มีจุดเด่นและข้อดีที่แตกต่างกันไป เช่น Apple ขึ้นชื่อเรื่องความทันสมัยและการใช้งานที่ง่าย Sony โดดเด่นเรื่องคุณภาพเสียงและการตัดเสียงรบกวน Sennheiser เน้นความคุ้มค่าและเสียงที่มีคุณภาพ Jabra เน้นความทนทานและฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน JBL เน้นเสียงเบสที่หนักแน่น Samsung เน้นดีไซน์และฟีเจอร์ที่หลากหลาย Huawei เน้นความคุ้มค่าและฟีเจอร์ที่ครบครัน SoundPEATS เน้นความคุ้มค่าและเสียงที่มีคุณภาพ Xiaomi เน้นราคาย่อมเยาและฟีเจอร์ที่หลากหลาย
ดังนั้น การเลือกซื้อหูฟังไร้สาย ควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ ข้างต้น รวมถึงความต้องการใช้งานของตนเอง เพื่อให้ได้หูฟังที่ตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างคุ้มค่า
คำแนะนำในการเลือกซื้อหูฟังไร้สาย
- ทดลองฟังเสียงก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้แน่ใจว่าได้หูฟังที่มีเสียงที่ตรงกับความต้องการ
- พิจารณาฟีเจอร์ต่างๆ ที่ต้องการใช้งาน เช่น การตัดเสียงรบกวน การกันน้ำกันฝุ่น การสั่งงานด้วยเสียง และอื่นๆ
- เปรียบเทียบราคาจากหลายแหล่งก่อนตัดสินใจซื้อ
- อ่านรีวิวจากผู้ใช้จริง เพื่อประกอบการตัดสินใจ
- ตรวจสอบการรับประกันสินค้า
หวังว่าคำแนะนำเหล่านี้จะช่วยให้คุณเลือกซื้อหูฟังไร้สายได้อย่างคุ้มค่าและตอบโจทย์การใช้งาน
10 อันดับ หูฟังไร้สาย (Bluetooth Earphone) ยี่ห้อไหนดี
Sony WH-1000XM5 หูฟังตัดเสียงรบกวนไร้สาย
- การตัดเสียงรบกวนที่เยี่ยมที่สุด
- เทคโนโลยี Multi Noise Sensor
- การตัดเสียงรบกวนที่เหนือชั้น
- Chipset อัจฉริยะ Apple H1 ภายในตัว ใช้งานได้ลื่นไหล
- รองรับการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ Android ง่ายดายเพียงแตะเดียว
- รองรับระบบเสียงรอบทิศทาง Dolby Atmos แบบสมจริง
- ระบบเสียง Spatial Audio แบบติดตามการเคลื่อนไหวของศีรษะ
Bose Headphones 700
- ตัดเสียงรบกวนระดับต้น ๆ ของวงการ
- ไมโครโฟนรับเสียงได้อย่างคมชัด
- แบตเตอรี่ใช้งานได้นาน 20 ชั่วโมง
- ปรับตั้งค่าเพิ่มเติมได้ผ่านแอป Bose Music
- ระบบควบคุมสัมผัส, Voice Assistant,ใช้งานร่วมกับแอปพลิเคชัน
- CODEC ที่รองรับ AAC, SBC
- การเชื่อมต่อหูฟัง (Input) บลูทูธ, AUX (3.5mm)
MARSHALL MOTIF A.N.C. Black - หูฟังตัดเสียงรบกวน
- ตัดเสียงรบกวน และกำหนดระดับเสียงรบกวนเพื่อประสบการณ์ฟังเพลงที่เป็นตัวคุณ
- หูฟังเอียบัด (earbuds) แนบสนิท ไม่หลุดง่าย
- ระบบชาร์จไร้สายที่คุณเชื่อใจได้หากต้องใช้งานติดต่อกันหลายชั่วโมง
- ใช้งานพร้อมกับระบบตัดเสียงรบกวนและBluetooth 20 ชั่วโมง
- กันน้ำมาตรฐาน IPX5 และเคสชาร์จแบตมาตรฐาน IPX4
- ระบบสัมผัสตรงหูฟัง เพื่อให้ควบคุมเสียงเพลงและสายโทรเข้า-ออกได้
- อิสระในการฟังโดยไม่ต้องใช้สาย
Jabra Elite 10
- ช่วยให้ประสิทธิภาพการตัดเสียงรบกวนภายนอกดีขึ้นเป็น 2 เท่า
- การตัดเสียงรบกวนนี้จะเป็นไปแบบอัตโนมัติขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อมที่คุณอยู่
- ไดร์เวอร์ขนาด 10 มม. พร้อมระบบเสียง Spatial Sound เพื่อให้คุณดื่มด่ำกับเสียงเพลงได้อย่างเต็มอิ่ม
- เพิ่มประสบการณ์ในระบบ Dolby Atmos ด้วยเทคโนโลยี Dolby Head Tracking
- ช่วยจับการเคลื่อนไหวของคุณ ทำให้เสียงเคลื่อนที่ไปพร้อมกับตัวคุณ
- ใส่สบายตลอดทั้งวันด้วยเทคโนโลยี Jabra ComfortFit ซึ่งช่วยลดแรงดันภายในหู
- ไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนได้ 6 ตัว ช่วยให้เสียงสนทนาของคุณคมชัด สดใส ไม่ว่าสภาพแวดล้อมรอบตัวจะเป็นอย่างไร
- เทคโนโลยี Bluetooth Multipoint Connection ช่วยให้คุณเชื่อมต่อได้ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน และสามารถสลับการใช้งานระหว่างอุปกรณ์ได้อย่างง่ายดาย
- ปรับแต่ง EQ และรูปแบบการใช้งานได้ตามต้องการ ผ่านแอปพลิเคชัน Jabra Sound+
- มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP57
- แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานสูงสุด 6 ชม. และเพิ่มเป็น 27 ชม. เมื่อใช้ร่วมกับตลับชาร์จ
APPLE AirPods (3rd generation)
- ขนาดกระชับพอดีในรูปทรงโค้งมน
- คุณภาพเสียงอันน่าทึ่งพร้อม EQ แบบปรับได้เอง
- ระบบเสียงตามตำแหน่งพร้อมการติดตามศีรษะแบบไดนามิกเพื่อประสบการณ์การฟังในแบบสามมิติที่เต็มอิ่มสมจริง
- การควบคุมด้วยเซ็นเซอร์แรงกด
- ทนเหงื่อและน้ำ (IPX4)
- ตั้งค่ากับอุปกรณ์ Apple ทั้งหมดของคุณได้ง่ายๆ
- เคสสามารถชาร์จได้ทั้งแบบไร้สายโดยใช้ที่ชาร์จ MagSafe, เครื่องชาร์จที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน Qi หรือชาร์จผ่านช่องต่อ Lightning
JVC HA-XC70BT-R
- น้ำหนักเบา 5.5g. สวมใส่กระชับ ตัวบอดี้แข็งแรงทนทาน
- ไดร์เวอร์ขนาด 5.8 มม. เบสทรงพลัง ฟังสนุก
- Bluetooth 4.2 Class 2 เชื่อมต่อสัญญาณไกล 10 เมตร
- กันน้ำ กันฝุ่น IPX7 เหมาะสำหรับใส่ออกกำลังกาย
- ควบคุมง่ายด้วยปุ่มฟังก์ชันบนตัวหูฟัง
- ฟังได้นานต่อเนื่อง 3 ชม.
- ชาร์จผ่านเคสได้อีก 9 ชม. รวมใช้งานได้นานสูงสุด 12 ชม.
OPPO Enco Buds2
- เชื่อมต่อได้อย่างเสถียร รองรับ Bluetooth 5.2
- Enco Live ปรับเปลี่ยนเสียงเพลงได้ในสไตล์ทีชื่นชอบ
- ฟังเพลงต่อเนื่องนานสูงสุด 28 ชั่วโมง
- Size : 57mm * 57mm * 25.6mm
- Battery type : Rechargeable Li-ion Cell
- Charging time : 90min (Earbuds) / 200min (Earbuds + Charging Case)
- Charging port : USB Type-C
- Dust & Water Resistance (Earbuds) : IPX4
Xiaomi Redmi Buds 4 Pro
- การตัดเสียงรบกวนต่อเนื่องสูงสุด 43dB
- พัฒนาเทคโนโลยีดีขึ้นกว่าเดิม เพื่อลดเสียงรบกวนจากลม
- อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานพิเศษถึง 36 ชั่วโมง
- ใช้งานได้นานสูงสุด 9 ชั่วโมงจากการชาร์จเพียงครั้งเดียว
- ฟังเพลงได้นานสูงสุด 2 ชั่วโมงจากการชาร์จเพียง 5 นาที
- คุณภาพเสียงระดับ Hi-Fi
- ไดร์เวอร์ไดนามิกคู่
Lenovo LP40 PRO
- กันน้ำมีไมโครโฟนตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ
- ฟังก์ชันการควบคุมแบบสัมผัสยอดนิยม
- ชิปปรับแต่งเกม, 0.06 วินาทีไม่มีความรู้สึกล่าช้า
- เล่นเกมได้ดีกว่า เสถียรกว่า, ราบรื่นกว่าหูฟังทั่วไป
- คุณภาพเสียงไฮไฟ โค้ดเสียง AAC/SBC คุณภาพเสียงคุณภาพสูง
- โทรศัพท์มือถือที่ใช้ Bluetooth ก็สามารถใช้ชุดหูฟังนี้ได้
- ฟังเพลงต่อเนื่อง 20 ชม. สแตนด์บาย 350 ชม.
Sennheiser HD 650
- ระบบที่มีความทนในวงแคบ (± 1 dB), หยิบจับได้เป็นคู่
- ระบบแม่เหล็กที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อช่วยลดความเหวี่ยงของเสียง
- พื้นผิวภายนอกเคลือบไทเทเนียมสีเงินคุณภาพสูง
- สายเคเบิ้ลเชื่อมต่อที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ (สามารถถอดออกได้)
- ขดลวดเสียงอลูมิเนียมน้ำหนักเบาเป็นพิเศษ
- สายแจ็คเคลือบสีทอง 1/4" พร้อม adaptor เชื่อมไปยังสายแจ็คขนาด 3.5 มม
- ผลิตจากทองเหลือง OFC ที่สามารถนำพลังงานได้ดีเยี่ยม